วิธีการขยายเครือข่ายแขกเมื่อมีการสลับระหว่าง Deco หลายตัว

https://www.tp-link.com/th/support/faq/2317/

1. โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าเวอร์ชันของ Deco App และเฟิร์มแวร์ของคุณเป็นรุ่นล่าสุด

2. ในโทโพโลยีด้านล่าง (Ethernet backhaul) คุณอาจพบว่าคุณไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายแขกของ Deco เพิ่มเติม คำถามที่พบบ่อยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสอนวิธีการกำหนดค่าสวิตช์ของคุณเพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ ที่นี่เราใช้โทโพโลยีแรก (Daisy Chain Network) เป็นตัวอย่าง Deco หลักเชื่อมต่อกับพอร์ต 1 และ Deco เพิ่มเติมเชื่อมต่อกับพอร์ต 5

เครือข่ายหลักและเครือข่ายเกสต์ถูกคั่นด้วย VLAN เครือข่ายแขกติดแท็กและเครือข่ายหลักไม่ได้ติดแท็ก VLAN ID สำหรับเครือข่ายเกสต์คือ 591 โดยค่าเริ่มต้น คุณยังสามารถตั้งค่าระหว่าง 3-1024

หมายเหตุ: ปุ่ม VLAN ID จะปรากฏขึ้นเมื่อ Decos ของคุณอยู่ใน Ethernet backhaul เท่านั้น

ดังนั้นคุณต้องทำการกำหนดค่าบางอย่างบนสวิตช์ของคุณ ที่นี่เราใช้สวิทช์อัจฉริยะ TP-Link ที่ใช้งานง่าย TL-SG105E เป็นตัวอย่าง สวิตช์อื่น ๆ ทำงานในลักษณะเดียวกัน

เครือข่ายเกสต์และเครือข่ายหลักแยกจากกันด้วย VLAN เครือข่ายแขกติดแท็กและเครือข่ายหลักไม่ได้ติดแท็ก ดังนั้นคุณต้องตั้งค่า VLAN สองตัวบนสวิตช์เพื่อให้ทั้งสองเครือข่ายสามารถทำงานได้ตามปกติ

ขั้นตอนที่ 1 กำหนดค่าการตั้งค่า VLAN ของเครือข่ายหลัก

คุณสามารถตั้งค่า VLAN ID เป็นหมายเลขใด ๆ ที่คุณต้องการ (ไม่เกินช่วงสวิตช์ของคุณ) ที่นี่เราคิดว่า VLAN ID ของเครือข่ายหลักเป็น 2 และกฎ Egress ของมันไม่ได้ถูกติดแท็ก คลิก VLAN > 802.1Q VLAN เปิดใช้งาน สถานะ 802.1Q VLAN ตั้งค่า VLAN เป็น 2 และ ชื่อ VLAN เป็นหลัก จากนั้นเลือก พอร์ตที่ไม่ติด แท็ก:

ขั้นตอนที่ 2 กำหนดค่าการตั้งค่า VLAN ของเครือข่ายแขก

VLAN ID ของเครือข่ายแขกของ Deco คือ 591 โดยค่าเริ่มต้นและติดแท็ก ดังนั้นที่นี่เราใช้ 591 เป็น VLAN ID ของเครือข่ายแขก ทำซ้ำขั้นตอนเช่นเดียวกับเมื่อคุณตั้งค่าเครือข่ายหลัก เพียงทราบว่าคุณต้องเลือก พอร์ตที่ติดแท็ก ที่นี่

ขั้นตอนที่ 3 ตั้งค่า PVID ของพอร์ต ที่ เชื่อมต่อกับ Decos ของคุณ

ตั้งค่าเหมือนกับ VLAN ID ของเครือข่ายหลัก คลิก VLAN > การตั้งค่า PVID 802.1Q

จนถึงตอนนี้การกำหนดค่าทั้งหมดในสวิตช์ของคุณเสร็จสิ้นแล้ว